May 20, 2024

สูตรการเล่นบาคาร่าที่เซียนส่วนใหญ่ใช้กัน [อ่านจบใน 5 นาที]

สำหรับนักพนันบาคาร่าออนไลน์ส่วนมากนั้นจะใช้เซนส์ของตัวเองในการเล่น แต่ในบางทีการใช้เซนส์เพียงอย่างเดียวอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ดังนั้นเราจึงต้องมีสูตรการเล่น บาคาร่าเข้ามาช่วยเพื่อให้รู้ว่า จังหวะไหนคุณควร ‘รอ’ จังหวะไหนคุณควร ‘รุก’ 

เซียนพนันส่วนใหญ่จึงไม่ได้ใช้เซนส์เพียงอย่างเดียวแต่มีการใช้สูตรเข้ามาเป็นเครื่องมือในการช่วยด้วย ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจไปพร้อมๆ กันว่าสูตรการเล่นบาคาร่าแบบ 2 ตัดคืออะไร ทำไมสูตรนี้ถึงสำคัญ และ มีข้อควรระวังอะไรบ้างในการใช้สูตร

สูตรการเล่นบาคาร่าแบบ 2 ตัด คืออะไร?

สูตรบาคาร่าแบบ 2 ตัดเป็นการเล่นแบบอาศัยการ “ลักไก่” หรือการรอจังหวะเดิมพันจนกว่าจะเห็นเค้าไพ่แบบ 2 ตัด พอจังหวะมา เราค่อยลงเงิน

หลักสำคัญในการใช้สูตรนี้ คือ การดูเค้าไพ่แบบ 2 ตัดให้ออกโดยไพ่จะออกผลเหมือนกัน 2 ครั้ง BB-PP-BB-PP  หากไพ่ออกผลลัพธ์แบบนี้เมื่อไหร่ คุณสามารถเข้าร่วมเดิมพันในฝั่งตรงข้ามได้ทันที แต่ทั้งนี้เพื่อให้คุ้มค่ากับการรอคอยผู้เดิมพันจะต้องอาศัยการเดินเงินร่วมด้วยเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรที่ดีกว่า คุ้มค่ากว่า และ อาจช่วยลดความสูญเสียในกรณีที่เกิดเค้าไพ่ 2 ตัดหลอก 

ยกตัวอย่างเช่น 

เมื่อผลของการเดิมพันออกมาที่  PP รายการเดิมพันครั้งถัดไป ที่แนะนำตามสูตรนี้ คือการเลือกเล่น  (เพราะตามสูตรแล้วผมจะต้องออก BB) แต่พบว่า ผลจริง ดันไปออก P ซ้ำ 

ในกรณีนี้หมายความว่า ในครั้งแรกคุณจะต้องเสียเงินเดิมพันไป ดังนั้น เมื่อเราเดิมพันครั้งถัดไป ด้วยการเลือกเล่น B อาจต้องมีการเพิ่มทุนนิดหน่อย เพื่อดึงทุนที่หายไปก่อนหน้านี้กลับคืนมา

รู้จักเทคนิคการเดินเงินในแต่ละรูปแบบ

เทคนิคการเดินเงินนั้นเป็นไปได้หลายรูปแบบขึ้นอยู่กับคุณเองว่าจะเลือกใช้วิธี 

  • เดินเงินแบบทบทุน 
  • เดินเงินแบบทวีคูณ
  • เดินเงินแบบเสมอ 

ดังนั้นเมื่อผลไพ่ตามสูตรนี้ผิดพลาดเมื่อไหร่การเลือกที่จะหยุดเพื่อรอให้จังหวะมาถึงแล้วค่อยเริ่มใหม่เป็นทางเลือกที่ดีกว่า คุณจะเห็นว่าคนที่จะใช้สูตรนี้ได้ต้องเป็นคน ‘ใจเย็น’ 

เมื่อจังหวะใหม่มาถึงเราค่อยเดินเงินเล่นแบบทบทุน หรือจะใช้เป็นเทคนิคการเดินเงินในรูปแบบอื่นก็ได้ แต่สำคัญคือคุณควรต้องคำนวณเงินของตนเอง และวางแผนให้ดีก่อนการเข้าเล่นเสมอ ให้คิดเสมอว่าหากสูตรผิดพลาดคุณจะต้องใจเย็นรอจนกว่าจังหวะจะมาใหม่ถึง คำนวณเงินที่ตนเองมีอยู่ให้ดี และคิดไว้ก่อนว่าจะใช้เทคนิคการเดินเงินแบบไหนในการเข้าเล่นครั้งถัดไป

เคล็ดลับการใช้สูตรบาคาร่าแบบ 2 ตัดอย่างมีประสิทธิภาพ

1.เลือกห้องในการเล่น

สูตรการเล่นบาคาร่าแบบ 2 ตัดนี้ คุณจะต้องเลือกวางเดิมพันไปกับเกมที่มีความเหมาะสม หรือพูดง่ายๆ คือเลือกเข้าไปทำกำไรกับโต๊ะเดิมพันที่มีเค้าไพ่  2 ตัดให้เห็นบ่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่าคุณจะต้องเลือกห้องเดิมพันให้เหมาะสม 

เทคนิคง่ายๆ ในการเลือกห้องที่ดี คือ การเลือกเข้าไปวางเดิมพันกับห้องที่เคยเกิดผลเป็น 2 ตัดมาก่อนหน้านี้ ‘หลายครั้งติดกัน’ เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการใช้สูตรได้มากขึ้น 

2.เลือกเว็บบาคาร่า

หากเป็นการวางเดิมพันกับคาสิโนทั่วไป เมื่อเราไปรอจังหวะไพ่ในห้องเดิมพันจริง แน่นอนว่าหากคุณไม่มีการวางเดิมพันครบ 5 ตา ระบบจะดีดเราออกทันที ทำให้เสียเวลาต้องคลิกเข้าไปในห้องนั้นใหม่ 

3.เริ่มต้นโดยการแทงลม

การแทงลมเป็นการเริ่มต้นทีดีหากคุณอยากทดลองใช้สูตรนี้ไปพลางๆ ว่ามันเข้าตามสูตรจริงหรือไม่ ลองจดบันทึกโอกาสการชนะในการใช้สูตรมีประมาณกี่เปอร์เซนต์ พอคุณทราบแล้วว่าสูตรนี้ได้ผลกับโต๊ะนี้ ถึงค่อยลงเงินจริง

การแทงลมนี้เปรียบเสมือนการเช็คสูตรว่าใช้ได้จริงหรือไม่

4.มองข้อดี-ข้อเสียของสูตรนี้ให้ออก

เมื่อเรารู้ว่าข้อดีคืออะไร และข้อเสียเป็นแบบไหน จะช่วยเพิ่มความระมัดระวังในการเข้าเล่นได้มากขึ้น โดยรายละเอียดของข้อดีและข้อเสียของการใช้สูตร 2 ตัดมีดังนี้

ข้อดีในการใช้สูตร 2 ตัด

  • ทำเงินได้อย่างรวดเร็ว
  • เดิมพันโดยไม่ต้องจำสูตร แค่ใช้การสังเกต
  • รู้ว่าจังหวะไหนควรรอ จังหวะไหนควรรุก
  • ประหยัดต้นทุนในการเดิมพันได้ดี
  • มีห้องให้เดิมพันเยอะ เนื่องจาก เค้าไพ่ 2 ตัด เดิดขึ้นบ่อย

ข้อเสียในการใช้สูตร 2 ตัด

  • ต้องใช้ความชำนาญและอาศัยจังหวที่เหมาะสมจึงจะให้ผลชัดเจน
  • มีความเสี่ยงหากในเกมนั้นๆมีการเปลี่ยนเค้าไพ่บ่อยเกินไป จนจับทางไม่ได้
  • ใช้เวลานานในการเข้าเล่น เพราะต้องรอจังหวะที่ดีที่สุดเท่านั้นต้อง ‘ใจเย็น’
  • หากไม่มีการเดินเงินช่วย อาจจะทำให้เสียเปรียบเจ้ามือได้

5. รู้จักสูตรการเดินเงิน

สำหรับสูตรการเดินเงินนั้นเราได้มีเกริ่นไปแล้วข้างต้น แต่หากเรามองลึกลงไปอีกการเดินเงินจะมีสูตรอยู่อีก 2 ชื่อที่คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักนั่นก็คือ

  • สูตรมาติงเกล
  • สูตรซุปเปอร์มาติงเกล

ข้อควรระวังในการใช้สูตร 2 ตัด

สูตร 2 ตัดนี้มีข้อควรระวังอยู่ด้วยเพราะคุณไม่ควรเข้าไปใช้สูตรนี้กับโต๊ะที่มีเค้าไพ่ 2 ประเภทนี้ให้เห็นบ่อยๆ

  • โต๊ะที่มีเค้ามังกร
  • โต๊ะที่มีเค้าปิงปอง 

การที่เข้าไปใช้สูตรกับโต๊ะ 2 ประเภทนี้จะมีความเสี่ยงเป็นอย่างมากที่จะแพ้ติดกันหลายครั้งเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับ

บาคาร่าออนไลน์ คือ อะไร เล่นแบบไหน ที่นี่มีคำตอบ

เกมส์บาคาร่า คือ การพนันที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 15 มีจุดกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี และแพร่หลายในฝรั่งเศส ในส่วนของวิธีการเล่นมีรายละเอียด ดังนี้

การเล่นจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายให้ผู้เล่นเลือกทายได้ คือ

  • ฝ่ายผู้เล่น (Player) หรือฝ่ายน้ำเงิน
  • ฝ่ายเจ้ามือ (Banker) หรือฝ่ายแดง

ซึ่งผู้เล่นจะเลือกเดิมพันฝ่ายไหนก็ได้ เมื่อเปิดไพ่สองฝ่าย แต้มออกมาแล้วใครจะมากกว่ากันจะเป็นฝ่ายที่ชนะ โดยแต้มสูงสุดคือ 9 แต้ม ซึ่งฝ่ายไหนได้แต้มสูงฝ่ายนั้นจะเป็นผู้ชนะ วิธีการเล่นเพียงแค่เราเลือกถูกฝ่ายเราก็มีโอกาสได้เงิน สำหรับการเล่นไพ่บาคาร่าออนไลน์ ระบบจะมีเวลากำหนดให้คุณ 15-25 วินาที สำหรับการลงเดิมพัน

กติกาการนับแต้มไพ่บาคาร่าออนไลน์

สำหรับกติกาที่ควรรู้อย่างแรกเลย คือ กติกาการนับแต้ม ซึ่งการนับแต้มของบาคาร่านั้น จะต้องใกล้กับ 9 แต้มมากที่สุด ถึงจะเป็นฝ่ายชนะ โดยจะสามารถจั่วไพ่เพิ่มได้ฝั่งละ 1 ใบเท่านั้น สำหรับการนับแต้มไพ่ มีดังนี้

  • ไพ่ที่มีเลข 10 นับว่ามีค่าเท่ากับ 0
  • ไพ่ J – Q – K  นับว่ามีค่าเท่ากับ 0 เหมือนกันครับ
  • ส่วนที่เหลือให้นับแต้มตามหน้าไพ่ ได้แก่ 2 – 3 – 4 – 5 – 6 – 7 – 8 – 9

แต้มของเกมส์บาคาร่าออนไลน์แต่ละฝ่าย คือ ตัวเลขตัวสุดท้ายของผลบวกของไพ่ทั้งหมดในมือดังนั้น ฝ่ายที่ถือไพ่ 8 กับ 9 ก็จะมีแต้ม 7 (เพราะ 8+9 = 17) ทั้งนี้เพราะไพ่ 10 แต้ม และ ไพ่ฝรั่งนับค่าเท่ากับ 0 และนับเฉพาะตัวเลขหลักสุดท้ายเท่านั้น ดังนั้นไพ่ในหลักสิบจึงมีค่าเท่ากับ 0

กติกาการจั่วไพ่

ตอนเริ่มต้นเกมส์นั้นผู้เล่นแต่ละฝ่ายจะได้ไพ่คนละ 2 ใบครับ จะจั่วใบที่สาม หรือไม่ก็จะต้องดูไพ่อีกทีว่าจั่วได้หรือไม่ เพราะมันจะมีกติกาที่กำหนดไว้อยู่ว่าผลรวมของไพ่ จะเข้าข่ายเกณฑ์การจั่วไพ่ใบที่สามหรือไม่ ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ถ้าสองใบแรกได้ค่ารวมกันระหว่าง 1-5 แต้มให้จั่วได้ แต่เมื่อจั่วแล้ว ไพ่ที่มีอยู่ห้ามเกิน 3 ใบ แต่ถ้าสองใบแรกได้ค่ารวมกันระหว่าง 6 – 9 จะไม่สามารถจั่วได้

ตำแหน่งการวางเดิมพัน และอัตราการจ่ายรางวัลของเกมส์บาคาร่าออนไลน์

บาคาร่าจะต่างจากไพ่ป๊อกเด้ง คือ ผู้เล่นสามารถทำการเลือกเดิมพันระหว่างฝ่ายเจ้ามือ (Banker) กับฝ่ายผู้เล่น (Player) หรือจะทายผลเสมอก็ได้ และสำหรับเกมบาคาร่าออนไลน์นั้น จะมีตารางที่แสดงถึงผลการแพ้ ชนะ เสมอ ในเกมก่อนหน้าทั้งหมด (ขอนไพ่) เพื่อให้ผู้เล่นได้ใช้เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจก่อนการลงเดิมพันครั้งต่อ ๆ ไป โดยรูปแบบการเดิมพันจะแบ่งออกเป็น 19 รูปแบบด้วยกัน ดังนี้

1. ตำแหน่งผู้เล่น (Player) คือการลงเดิมพันว่าฝ่ายผู้เล่น หรือฝ่ายสีน้ำเงินจะเป็นฝ่ายชนะเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัล 1 เท่าของยอดเดิมพัน

2. ตำแหน่งเจ้ามือ (Banker) คือการลงเดิมพันว่าฝ่ายเจ้ามือ หรือฝ่ายสีแดงจะเป็นฝ่ายชนะเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัล 0.95 เท่าของยอดเดิมพัน

3. ตำแหน่งเสมอ (Tie) คือการลงเดิมพันว่าทั้งสองฝ่ายจะมีแต้มเท่ากัน หรือเสมอกันนั่นเองครับ อัตราการจ่ายเงินรางวัล 8 เท่าของยอดเดิมพัน

4. ตำแหน่งไพ่คู่ของผู้เล่น คือการเดิมพันว่าไพ่สองใบแรกของฝ่ายผู้เล่นจะเป็นไพ่หน้าเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ฝ่ายผู้เล่นได้ไพ่แต้ม 3 สองใบ อัตราการจ่ายเงินรางวัล 11 เท่าของยอดเดิมพัน

5. ตำแหน่งไพ่คู่ของเจ้ามือ คือการเดิมพันว่าไพ่สองใบแรกของฝ่ายเจ้ามือจะเป็นไพ่หน้าเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ฝ่ายเจ้ามือได้ไพ่แต้ม 3 สองใบ อัตราการจ่ายเงินรางวัล 11 เท่าของยอดเดิมพัน

6. ตำแหน่ง Perfect Pair คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝ่ายจะได้ไพ่คู่ อัตราการจ่ายเงินรางวัล 25 เท่าของยอดเดิมพัน

7. ตำแหน่งไพ่คู่ฝ่ายใดก็ได้ คือการเดิมพันว่าไพ่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะออกเป็นไพ่คู่ อัตราการจ่ายเงินรางวัล 5 เท่าของยอดเดิมพัน

8. ตำแหน่งต่ำ คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝ่ายจะไม่ได้จั่วไพ่เพิ่ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 1.5 เท่าของยอดเดิมพัน

9. ตำแหน่งสูง คือการเดิมพันว่าจะมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเปิดไพ่ใบที่ 3 อัตราการจ่ายเงินรางวัล 0.54 เท่าของยอดเดิมพัน

10. ตำแหน่งเลข 0 คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 0 แต้ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 150 เท่าของยอดเดิมพัน

11. ตำแหน่งเลข 1 คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 1 แต้ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 215 เท่าของยอดเดิมพัน

12. ตำแหน่งเลข 2 คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 2 แต้ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 220 เท่าของยอดเดิมพัน

13. ตำแหน่งเลข 3 คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 3 แต้ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 200 เท่าของยอดเดิมพัน

14. ตำแหน่งเลข 4 คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 4 แต้ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 120 เท่าของยอดเดิมพัน

15. ตำแหน่งเลข 5 คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 5 แต้ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 110 เท่าของยอดเดิมพัน

16. ตำแหน่งเลข 6 คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 6 แต้ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 45 เท่าของยอดเดิมพัน

17. ตำแหน่งเลข 7 คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 7 แต้ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 45 เท่าของยอดเดิมพัน

18. ตำแหน่งเลข 8 คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 8 แต้ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 80 เท่าของยอดเดิมพัน

19. ตำแหน่งเลข 9 คือการเดิมพันว่าทั้งสองฝ่ายจะเสมอกันที่แต้ม 9 แต้ม อัตราการจ่ายเงินรางวัล 80 เท่าของยอดเดิมพัน

กติกาการเล่นบาคาร่าออนไลน์

ขั้นตอนแรกต้องเข้าเว็บไซต์คาสิโนออนไลน์ เลือกห้องเดิมพัน เพื่อเข้าเล่นเดิมพันบาคาร่า

หลังจากเข้าห้องเดิมพันทางเว็บไซต์จะกำหนดเวลาให้ผู้เล่นได้เลือกลงการเดิมพันประมาณ 15-25 วินาที

เมื่อหมดเวลาในการลงเดิมพัน ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่โดยจะแจกให้ฝ่ายละสองใบ ถ้าไพ่สองใบแรกมีแต้มรวมกัน 1-5 แต้ม หรือเข้าเงื่อนไขของการแจกไพ่ใบที่ 3 ดีลเลอร์จะแจกไพ่ใบที่ 3 ให้ทันที

เมื่อเปิดไพ่ครบทั้งสองฝ่ายแล้ว ฝ่ายไหนที่มีแต้มมากกว่าก็จะเป็นฝ่ายที่ชนะการเดิมพัน

หนทางสู่ความรวย เริ่มต้นด้วย สูตรบาคาร่าจีคลับ

การเดิมพันไปกับเกมพนันออนไลน์ในปัจจุบันนั้น ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางดี ๆ ที่จะสามารถสร้างรายได้ตอบแทนให้แก่ผู้เล่น และก็มีผู้เล่นหลายคนต่างพากันคิดค้น หนทางสู่ความสำเร็จที่จะเอาชนะเว็บพนันออนไลน์ด้วย สูตรบาคาร่าจีคลับ ที่เป็นอีกหนึ่งสูตรการเดิมพันชื่อดัง ที่สร้างรายได้ให้แก่ผู้เล่นมานับไม่ถ้วน

สูตรบาคาร่าจีคลับ คือสูตรอะไร

เมื่อพูดถึงสูตรบาคาร่าออนไลน์ชื่อดัง ผู้เล่นหลายคนก็คงจะนึกถึงสูตรอย่าง สูตรบาคาร่าออนไลน์ หรือสูตรบาคาร่าเค้าไพ่ปิงปอง แต่อีกหนึ่งสูตรที่กำลังมาแรง และเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ผู้เล่นบาคาร่าออนไลน์ในตอนนี้ ก็คงต้องยกให้กับ สูตรบาคาร่าจีคลับ อย่างแน่นอน เพราะเป็นสูตรที่มีการการันตีถึงผลลัพธ์จากการเดิมพันว่าผู้เล่น จะได้รับเงินรางวัลตอบแทนสูงถึง 96% โดยตัวสูตรนั้นถูกคิดค้นมาจากเว็บพนันออนไลน์อันดับหนึ่งของประเทศอย่างเว็บจีคลับ ซึ่งเป็นการเขียนโปรแกรมผ่านการตั้งค่าของเครื่องคอมพิวเตอร์ และนำมาใช้ในการคำนวณผลการออกรางวัลในการเดิมพันเกมบาคาร่าออนไลน์ ซึ่งผู้เล่นสามารถหยิบยกผลการคำนวณของโปรแกรม ไปใช้ในการเดิมพันได้แบบฟรี ๆ และมีนักพนันหลายคนที่เลือกนำไปใช้แล้วต่างถูกรางวัลและเอาชนะเว็บคาสิโนออนไลน์ไปกันเป็นจำนวนมาก

สูตรบาคาร่า gtr55 แนะนำสูตรเล่นไพ่ ทำเงินวันละ 500 บาท เหมาะสำหรับมือใหม่

สูตรบาคาร่า gtr55 ทีเด็ดหาเงินวันละ 500 ได้ง่าย 

  • ใช้เค้าไพ่บาคาร่า เป็นตัวอ่านเกมเพื่อช่วยตัดสินใจการเดิมพัน เพราะปัจจุบันบริเวณตารางที่แสดงสถิติแต่ละรอบ ในแต่ละเกม ไม่ว่าจะเป็นบาคาร่าแบรนด์ไหนก็ตาม มักจะมีเค้าไพ่ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เห็นอย่างชัดเจน เราก็อาศัยวิเคราะห์ในส่วนนี้เพื่อช่วยสนับสนุนการตัดสินใจ โดยปัจจุบันมีหลายเค้าไพ่ที่ทำให้เราเห็นตารางการเคลื่อนไหว ดังนั้นคุณสามารถฝึกฝนและสังเกต เพื่อใช้ประโยชน์ในส่วนนี้  ยกตัวอย่างเช่น การออกสลับกันระหว่างเพลเยอร์ แบงค์เกอร์ ออกสลับกันแบบนี้ อย่างน้อย 2-3 รอบกำลังเข้าสูตรเค้าไพ่ปิงปอง ให้คุณตามเล่นไปจนกว่าจะหลุดสูตรได้เลย 
  • ใช้โปรแกรมบาคาร่าฟรี โดยเป็นส่วนหนึ่งของผู้ให้บริการที่ทำออกมาเพื่อสนับสนุนสมาชิก เหมาะสำหรับใครที่อยากได้เครื่องมือช่วยตัดสินใจ ถ้าหากเป็นเว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ หรือคุณสมัครเล่นกับเว็บรายใหญ่คุ ณจะได้พบกับโปรแกรมแจกฟรี ที่ทางเว็บแจกให้ เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดีที่คุณไม่ควรพลาด 
  • โปรแกรมสูตรโกงบาคาร่าแบบเสียค่าใช้จ่ายรายเดือน สำหรับตัวโปรแกรมถูกพัฒนาโดยบริษัทค่ายเกม ที่หารายได้จากโปรแกรม โดยบริษัทจะมีการพัฒนาอัพเดทโปรแกรมอยู่ตลอด และจะมีการเพิ่มศักยภาพของโปรแกรมให้มีความแม่นยำมากขึ้น เพราะถ้าโปรแกรมทำงานได้ดี วางแผนได้แม่นยำ ก็จะช่วยทำให้เวลาลูกค้าใช้งาน ประสบผลสำเร็จ ส่งผลต่อจำนวนสมาชิกที่สมัครเข้ามาใช้บริการของทางบริษัท เมื่อมีชื่อเสียงของโปรแกรมได้รับความนิยม มีความแม่นยำ ลูกค้าก็จะสมัครมากขึ้น จึงเป็นเหตุผลที่โปรแกรมแบบรายเดือน ได้รับความนิยม เช่นเดียวกัน 

 

สูตรบาคาร่า poipet มาแรงใช้ได้จริงกับทุกคาสิโนออนไลน์

หากนึกถึงเกมคาสิโนออนไลน์ หลายคนนึกถึงเกมบาคาร่า เพราะว่าเล่นง่ายเกมจบไว หลายคนเลือกเกมนี้ในการทำกำไร ที่สำคัญที่สูตรให้เลือกเล่นเยอะมาก อย่างเช่นปัจจุบันที่กำลังฮิตจะเป็น สูตรบาคาร่า poipet ที่ใช้ AI ในการคำนวณ ดังนั้นจึงมีความแม่นยำกว่าวิเคราะห์เอง แม้แต่มือใหม่หัดเล่นก็สามารถนำมาใช้งานได้อย่างสะดวก เป็นอีกทางเลือกในการทำเงิน แม้ไม่มีประสบการณ์เดิมพันมาก่อน ก็ทำกำไรกับเกมบาคาร่าได้ไม่ยากเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

สูตรบาคาร่า poipet คืออะไร?

สำหรับสูตรบาคาร่า poipet หลายคนอาจจะเคยเห็นผ่านตากันมาบ้าง แต่วันนี้จะพามาทำความรู้จักอย่างละเอียด สำหรับสูตรตัวนี้นั้นเป็นโปรแกรมอัจฉริยะที่ช่วยคำนวณหาอัตราการชนะ คิดค้นโดยโปรแกรมเมอร์มืออาชีพที่ชื่นชอบการเดิมพันเกมบาคาร่า จึงได้นำมาพัฒนาเป็นสูตรคำนวณที่ช่วยสร้างกำไร ด้วยการนำสถิติย้อนหลังในห้องนั้น ๆ มาคำนวณหาอัตราการชนะในตาถัดไป เนื่องจากเกมบาคาร่านั้นจบไวและค่อนข้างเสี่ยง จึงต้องมีสูตรเป็นตัวช่วยในการทำกำไร ก่อนหน้านี้นั้นได้มีผู้คิดค้นสูตรและเทคนิคมากมาย แต่ก็เป็นการอาศัยการสังเกตและวิเคราะห์จากสมองมนุษย์เท่านั้น จึงยังถือว่ามีความเสี่ยงในการเล่นอยู่

จนกระทั่งมีผู้ที่มาพัฒนาตัวโปรแกรมขึ้นอย่างเป็นรูปเป็นร่าง จึงทำให้ปัจจุบันทำกำไรกับการเล่นบาคาร่าได้ง่ายขึ้น และ สูตรบาคาร่าตัวนี้ออกแบบมาให้ใช้งานได้สะดวก เหมาะกับคนไทยที่ชอบอะไรง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ดังนั้นจึงไม่ต้องดาวโหลดและติดตั้ง เพียงแค่เปิดหน้าสูตรขึ้นมาและเริ่มใช้งานได้เลย เป็นความสะดวกสบายและใช้งานง่ายมากจริง ๆ ดังนั้นสูตรตัวนี้จึงกำลังเป็นที่นิยมมาก แต่หากว่าใช้งานไม่เป็นก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับความช่วยเหลือได้เลย

เบื้องต้นการใช้งาน ให้เปิดหน้า สูตรบาคาร่า ขึ้นมาและเลือกระบบบาคาร่าที่ใช้งานอยู่ ตอนนี้จะมีให้เลือกสองระบบคือ SA gaming และ เซ็กซี่ บาคาร่า เมื่อเลือกระบบเรียบร้อยแล้ว ให้เลือกห้องในการเข้าเล่น โดยให้ดูจากสถิติที่สูตรบอก ว่าห้องไหนมีโอกาสชนะมากน้อยกี่ % เป็นต้น เมื่อได้ห้องที่ต้องการ ก็กดเริ่มโปรแกรมได้เลย ตัว สูตรบาคาร่า จะคำนวณหาอัตราการชนะจากสถิติย้อนหลังของห้องที่เลือกเล่น ผู้เล่นเพียงแค่ลงเดิมพันตามที่สูตรบอก เพียงแค่นี้ก็นั่งรอรับกำไรกันไปเลย

แต่ทั้งนี้ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเกมบาคาร่าเป็นเกมพนัน ดังนั้นจึงมีความเสี่ยงสูงมาก แม้จะมีสูตรที่แม่นยำแค่ไหน ก็ต้องมีการวางแผนงบประมาณในการเล่นเสมอ

fabulous 4 บาคาร่าคืออะไร บทความนี้มีคำตอบ

fabulous 4 คืออะไร ?

สำหรับตัวเกม fabulous 4 บาคาร่า ก็จะเหมือนกับการเล่นบาคาร่าปกติ แต่จะมีเงื่อนไขใหม่เพิ่มเข้ามาให้เราได้เลือกแทงเพิ่ม โดยช่องตำแหน่งการแทงจะมีชื่อตามเกมคือประกอบไปด้วย ออกคู่ ซึ่งจะมีให้เราแทงทั้งฝั่ง เพลเยอร์ และ แบงค์เกอร์ ส่วนรายละเอียดของอัตราการจ่ายก็จะแตกต่างกัน ตามฝั่ง เพลเยอร์ และ แบงค์เกอร์ ครับ ในส่วนของบทความนี้ผมได้เลือกเว็บเรา มาเป็นเว็บตัวอย่างในการเข้าไปนำข้อมูลต่าง ๆ มาอธิบายให้กับท่าน สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หัวข้อถัดไปครับ

ตำแหน่งเดิมพันและอัตราการจ่าย

ในส่วนของการเล่น บาคาร่า จะมีเงื่อนไขและอัตราการจ่าย ให้เราได้ศึกษากันอยู่ โดยจะมีตำแหน่งของการแทงฝั่ง เพลเยอร์ และ แบงค์เกอร์ และก่อนที่เราจะเข้าไปเล่น เรามาศึกษาข้อมูลในเนื้อหาด้านล่างนี้ก่อน โดยท่านสามารถดูตัวอย่างรูปภาพที่ผมได้เตรียมไว้ให้ที่ด้านล่างนี

1. กรอบสีส้ม ฝั่ง เพลเยอร์ : เพลเยอร์ จะแบ่งออกเป็น 3 เงื่อนไขย่อยๆ คือ

– เพลเยอร์ชนะที่ 4 คะแนน : ชนะเงื่อนไขมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 0.5:1 หรือ แทง 1 บาทจ่าย 0.5 บาท

– เพลเยอร์ชนะที่ 1 คะแนน : ชนะเงื่อนไขมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 2:1 หรือ แทง 1 บาทจ่าย 2 บาท

– เพลเยอร์ชนะ ยกเว้น ชนะด้วย 4 และ 1 คะแนน : ชนะเงื่อนไขมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 1:1 หรือ แทง 1 บาทจ่าย 1 บาท

แถวบน เพลเยอร์ Fabulous ออกคู่ จะแบ่งออกเป็น 3 เงื่อนไขย่อย ๆ คือ

– ดอกเดียวกัน : เช่น โพแดง โพแดง แต่แต้มไหนก็ได้ ชนะเงื่อนไขมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 1:1 หรือ แทง 1 บาทจ่าย 1 บาท

– คู่เท่านั้น : เช่น K กับ K แต่สีไหนก็ได้ ชนะเงื่อนไขมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 4:1 หรือ แทง 1 บาทจ่าย 4 บาท

– คู่และสีเดียวกัน : เช่น K โพแดง กับ K โพแดง ชนะเงื่อนไขมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 7:1 หรือ แทง 1 บาทจ่าย 7 บาท

แถวล่าง เพลเยอร์ Fabulous 4 40:1

– ทายว่า เพลเยอร์จะเป็นฝ่ายชนะด้วยแต้ม 4 : ชนะเงื่อนไขมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 40:1 หรือ แทง 1 บาทจ่าย 40 บาท

2. กรอบสีเหลือง เสมอ 8:1 : การทายผลเสมอจะนับผลรวมของไพ่ทั้งหมดของฝั่ง เพลเยอร์ และ แบงค์เกอร์ ให้มีคะแนนเท่ากัน ชนะเงื่อนไขมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 8:1 หรือ แทง 1 บาทจ่าย 8 บาท

3. กรอบสีเขียว ฝั่ง แบงค์เกอร์ : แบงค์เกอร์ จะแบ่งออกเป็น 3 เงื่อนไขย่อย ๆ คือ

– แบงค์เกอร์ชนะที่ 4 คะแนน : ถือว่าเป็นผลเสมอ ผู้เล่นที่ลงแบงค์เกอร์จะได้เงินคืน

– แบงค์เกอร์ชนะที่ 1 คะแนน : ชนะเงื่อนไขมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 2:1 หรือ แทง 1 บาทจ่าย 2 บาท

– แบงค์เกอร์ชนะ ยกเว้น ชนะด้วย 4 และ 1 : ชนะเงื่อนไขมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 1:1 หรือ แทง 1 บาทจ่าย 1 บาท

แถวบน แบงค์เกอร์ Fabulous ออกคู่ จะแบ่งออกเป็น 3 เงื่อนไขย่อยๆ คือ

– ดอกเดียวกัน : เช่น โพดำ โพดำ แต่แต้มไหนก็ได้ ชนะเงื่อนไขมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 1:1 หรือ แทง 1 บาทจ่าย 1 บาท

– คู่เท่านั้น : เช่น A กับ A แต่สีไหนก็ได้ ชนะเงื่อนไขมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 4:1 หรือ แทง 1 บาทจ่าย 4 บาท

– คู่และสีเดียวกัน : เช่น A โพดำ กับ A โพดำ ชนะเงื่อนไขมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 7:1 หรือ แทง 1 บาทจ่าย 7 บาท

แถวล่าง แบงค์เกอร์ Fabulous 4 20:1

– ทายว่า แบงค์เกอร์จะเป็นฝ่ายชนะด้วยแต้ม 4 : ชนะเงื่อนไขมีอัตราจ่ายอยู่ที่ 20:1 หรือ แทง 1 บาทจ่าย 20 บาท